พื้นที่ที่อับอากาศคืออะไร
ที่อับอากาศ หรือที่เรียกว่า Confined Space คือ สถานที่ซึ่งมีพื้นที่จำกัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจมีการสะสมของก๊าซพิษ ขาดออกซิเจน หรือเกิดก๊าซไวไฟซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอันตรายต่อชีวิต และสุขภาพได้ง่าย เช่น ถังน้ำ บ่อท่อ บ่อบำบัด ตู้ หรือช่องอับที่มีทางเข้า-ออกจำกัด การทำงานในพื้นที่เหล่านี้ต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
ความสำคัญของการทำงานในพื้นที่อับอากาศ
การทำงานในพื้นที่อับอากาศมีความสำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น การบำบัดน้ำเสีย การทำความสะอาดถังเก็บสารเคมี การซ่อมแซมบ่อหรือท่อระบายน้ำ การเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการวางแผนด้านความปลอดภัยที่ดีและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงหากไม่มีการควบคุมที่ดี อุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงานในพื้นที่อับอากาศส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจน การหายใจเอาก๊าซพิษเข้าไป ก๊าซระเบิด การตกจากที่สูง หรือการขาดการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
อันตรายจากการปฏิบัติงานในสถานที่อับอากาศ
- การขาดออกซิเจน สถานที่อับอากาศมักมีระดับออกซิเจนต่ำกว่าปกติ เพราะไม่มีการระบายอากาศที่ดี การขาดออกซิเจนอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน หายใจลำบาก หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือทันท่วงที ระดับออกซิเจนในสถานที่อับอากาศควรอยู่ระหว่าง 19.5% – 23.5% เพื่อความปลอดภัย
- การสะสมของก๊าซพิษ ก๊าซพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) สามารถสะสมในพื้นที่อับอากาศได้ง่าย หากสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียน และหมดสติในทันที ก๊าซเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้ผู้ปฏิบัติงานหมดสติและเสียชีวิตได้ หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากโดยไม่มีการป้องกัน
- การระเบิดจากก๊าซไวไฟ ก๊าซไวไฟ เช่น มีเทน หรือก๊าซจากสารอินทรีย์ที่สะสมอยู่ในพื้นที่อับอากาศ หากมีประกายไฟหรืออุณหภูมิสูงพอ อาจทำให้เกิดการระเบิดได้ทันที ซึ่งจะส่งผลอันตรายถึงชีวิตแก่ผู้ปฏิบัติงาน การป้องกันที่สำคัญคือการตรวจวัดก๊าซไวไฟและการระบายอากาศในพื้นที่อับอากาศให้ดี
- อันตรายจากการตกหรืออุบัติเหตุจากอุปกรณ์ การทำงานในพื้นที่อับอากาศที่เป็นพื้นที่แคบหรืออยู่ในระดับต่ำอาจเสี่ยงต่อการตกลงไปหากพื้นที่ไม่มั่นคง หรืออาจเกิดอุบัติเหตุจากการใช้อุปกรณ์ เช่น บันไดที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและอันตรายถึงชีวิตได้
- การสูญเสียการรับรู้ การทำงานในพื้นที่ปิดและแคบอาจทำให้เกิดอาการสับสนหรือสูญเสียการรับรู้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องอยู่ในพื้นที่นั้นนานเกินไป อาการนี้อาจเกิดจากการขาดออกซิเจนและความกดดันจากสภาพแวดล้อมที่อึดอัด
- การติดเชื้อหรือสัมผัสกับสารเคมีอันตราย ในบางกรณี พื้นที่อับอากาศอาจมีสารเคมีตกค้าง เช่น สารเคมีจากการบำบัดน้ำเสีย หรือสารเคมีในถังเก็บซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือสารพิษเข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสหรือสูดดม อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา และระบบทางเดินหายใจ
ก๊าซอันตรายที่อาจพบในพื้นที่อับอากาศ
- คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น หากสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้หมดสติและเสียชีวิต
- ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) เป็นก๊าซที่มีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่า มีความเป็นพิษสูงหากสูดดมในปริมาณมาก และสามารถสะสมอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี
- ก๊าซไวไฟ เช่น ก๊าซมีเทน ที่เกิดจากการสลายตัวของสารอินทรีย์ ซึ่งสามารถจุดระเบิดได้หากมีความเข้มข้นสูงและมีประกายไฟ
มาตรการความปลอดภัยในการทำงานในพื้นที่อับอากาศ
เพื่อให้การทำงานในพื้นที่อับอากาศเป็นไปอย่างปลอดภัย จำเป็นต้องมีมาตรการความปลอดภัยให้ครบถ้วน ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง การใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล การตรวจสอบก๊าซ และการเตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉิน
-
การประเมินความเสี่ยง
- ตรวจสอบระดับออกซิเจนในพื้นที่อับอากาศ ระดับออกซิเจนควรอยู่ระหว่าง 19.5% – 23.5%
- ตรวจวัดก๊าซพิษหรือก๊าซไวไฟที่อาจอยู่ในพื้นที่ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อนการลงพื้นที่
- ประเมินสภาพแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น ความเสี่ยงจากการตก การเลื่อนลื่น หรือการทำงานในพื้นที่ที่มืด
-
การใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานในที่อับอากาศ ส่วนใหญ่จะต้องมีอุปกรณ์ดังนี้
- หน้ากากกรองอากาศ ใช้สำหรับกรองก๊าซพิษหรือก๊าซไวไฟ หรือชุดช่วยหายใจ SCBA
- ชุดป้องกันสารเคมี เช่น ถุงมือและรองเท้า เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารเคมี
- เข็มขัดนิรภัยและเชือกช่วยชีวิต ใช้เพื่อให้สามารถดึงผู้ปฏิบัติงานออกจากพื้นที่ในกรณีฉุกเฉินได้
- ไฟฉายและอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อให้สามารถติดต่อกับผู้ที่อยู่นอกพื้นที่อับอากาศได้
- การใช้ระบบอนุญาตทำงานในพื้นที่อับอากาศ
ใบอนุญาตการทำงานในพื้นที่อับอากาศเป็นเอกสารที่ระบุว่าผู้ปฏิบัติงานได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่อับอากาศและมีมาตรการความปลอดภัยที่ครบถ้วน
- การอนุมัติโดยหัวหน้างานหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่ได้รับการอบรมเกี่ยวกับพื้นที่อับอากาศ
- การระบุขั้นตอนปฏิบัติงานและความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติ
- ตรวจสอบการปฏิบัติงานตามมาตรการในใบอนุญาตการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่
ระบบ 4 ผู้ทำงานในพื้นที่อับอากาศ มีอะไรบ้าง
ในประเทศไทย การทำงานในที่อับอากาศต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้มี “ระบบ 4 ผู้” เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย:
1. ผู้อนุญาต
มีหน้าที่อนุมัติการทำงานในที่อับอากาศ โดยตรวจสอบและยืนยันว่ามีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมก่อนเริ่มงาน
2. ผู้ควบคุมงาน
รับผิดชอบวางแผนการปฏิบัติงานและการป้องกันอันตราย ชี้แจงและซักซ้อมหน้าที่ความรับผิดชอบ วิธีการปฏิบัติงาน และวิธีการป้องกันอันตรายให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
3. ผู้ช่วยเหลือ
เฝ้าระวังและสังเกตพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงานในที่อับอากาศ พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
4. ผู้ปฏิบัติงานในที่อับอากาศ
ต้องทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างเข้าไปทำงาน ปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานที่ระบุในใบอนุญาตเข้าทำงานในที่อับอากาศอย่างเคร่งครัด และสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ตลอดการปฏิบัติงาน
การปฏิบัติตามบทบาทและหน้าที่ของ “ระบบ 4 ผู้” นี้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยในการทำงานในที่อับอากาศ
สรุป
การทำงานในพื้นที่อับอากาศมีความเสี่ยงสูงแต่สามารถป้องกันได้หากปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การตรวจวัดระดับก๊าซ ออกซิเจน การใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล การจัดทำแผนฉุกเฉิน และการมีระบบอนุญาตให้ทำงานในพื้นที่อับอากาศเป็นสิ่งที่จำเป็น การอบรมและการเตรียมความพร้อมให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
บริการล้างถังน้ำมันในที่อับอากาศ โดยทีมงานมืออาชีพ
บริษัท เอส เอส ซี ออยล์ จำกัด ยินดีให้บริการล้างแทงก์น้ำมันและทำความสะอาดแทงก์อย่างมืออาชีพ ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในทุกขั้นตอน เรามีเจ้าหน้าที่ควบคุมที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยในการทำงานในที่อับอากาศตามมาตรฐานกฎหมาย มั่นใจได้ว่าการทำงานทุกครั้งจะเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพราะเราใส่ใจในความปลอดภัยและคุณภาพของงาน คุณจึงมั่นใจได้ว่าบริการล้างแทงก์และทำความสะอาดแทงก์ของเราจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสถานประกอบการของคุณ