แนวทางการจัดการของเสียอันตรายที่มาจากเรือควรทำอย่างไร?
ในปัจจุบันการก่อกำเนิดของเสียอันตรายมีจำนวนมากในภาคอุตสาหกรรมเรือเดินสมุทร จึงต้องมีการกำจัดของเสียให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อปกป้องทรัพยากรทางธรรมชาติของทะเลและลดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ การดำเนินงานการรับกำจัดของเสียจากเรือเดินสมุทร จะต้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและต้องคำนึงถึงแหล่งการกำจัดเพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมาย
กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการของเสียจากเรือ
การจัดการของเสียจากเรือจะต้องเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนดโดยองค์กรต่าง ๆ เช่น
- International Maritime Organization (IMO) : กฎระเบียบในการจัดการของเสียจากเรือที่มีผลบังคับใช้ทั่วโลก
- อนุสัญญา Marpol Convention : ข้อบังคับในการป้องกันมลพิษจากเรือในทะเล
- ประกาศ : กรมเจ้าท่าที่มีผลบังคับใช้ในการขนส่งของเสียอันตรายจากท่าเรือ
อนุสัญญา MARPOL คืออะไร? ทำไมถึงมีความสำคัญ?
อนุสัญญา MARPOL คือ กฎระเบียบสากลที่กำหนดโดยองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) เพื่อควบคุมและป้องกันมลพิษทางทะเลจากการขนส่งทางเรือ แบ่งออกเป็น 6 ภาคผนวก ซึ่งแต่ละภาคผนวกครอบคลุมด้านต่าง ๆ ของมลพิษทางทะเล ดังนี้
1. การป้องกันมลพิษจากน้ำมัน (ภาคผนวก I)
ภาคผนวก I ของอนุสัญญา MARPOL มุ่งเน้นการป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเล โดยกำหนดมาตรการเพื่อควบคุมการปล่อยน้ำมันออกจากเรือ เช่น การติดตั้งอุปกรณ์สำหรับเก็บน้ำมัน การบำบัดของเสียจากน้ำมัน และการบำรุงรักษาระบบควบคุมการปล่อยน้ำมัน มาตรการเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและการรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเล
2. การควบคุมมลพิษจากสารเคมีที่ขนส่งเป็นเทกอง (ภาคผนวก II)
ภาคผนวก II ของ MARPOL เน้นการควบคุมมลพิษจากสารเคมีที่ขนส่งในรูปของเหลวในปริมาณมาก เช่น สารเคมีอันตรายที่สามารถทำให้เกิดมลพิษในทะเล โดยกำหนดเงื่อนไขในการบรรจุ ขนถ่าย และระบายของเสียจากสารเคมี เพื่อให้การขนส่งทางเรือมีความปลอดภัยและไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล
3. การป้องกันมลพิษจากสารเคมีที่บรรจุเป็นหีบห่อ (ภาคผนวก III)
ภาคผนวก III กำหนดแนวทางการขนส่งสารเคมีที่บรรจุเป็นหีบห่อหรือภาชนะบรรจุสินค้าทั่วไป เช่น วัสดุอันตรายและสารพิษ กฎระเบียบในภาคผนวกนี้ครอบคลุมการบรรจุหีบห่ออย่างปลอดภัย รวมถึงมาตรการป้องกันการรั่วไหลหรือการแตกหักของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนทะเลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
4. การควบคุมการปล่อยมลพิษจากการบำบัดน้ำเสียบนเรือ (ภาคผนวก IV)
ภาคผนวก IV ครอบคลุมการบำบัดและระบายน้ำเสียจากเรือ กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียและวิธีการจัดการอย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้น้ำเสียที่ระบายลงสู่ทะเลก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศ รวมถึงการกำหนดระยะห่างที่เรือสามารถปล่อยน้ำเสียได้เมื่ออยู่นอกเขตน่านน้ำ
5. การป้องกันมลพิษจากขยะที่ทิ้งจากเรือ (ภาคผนวก V)
ภาคผนวก V มีข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดการขยะที่เกิดจากเรือ ซึ่งรวมถึงขยะพลาสติก เศษอาหาร เศษโลหะ และวัสดุอื่น ๆ ที่ห้ามทิ้งลงสู่ทะเล กำหนดให้เรือต้องมีระบบการจัดการขยะและห้ามทิ้งขยะลงทะเล ยกเว้นในกรณีที่เป็นขยะที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เศษอาหารที่ย่อยสลายได้
6. การควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศจากเรือ (ภาคผนวก VI)
ภาคผนวก VI เน้นการลดการปล่อยก๊าซที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษทางอากาศจากเรือ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SOx) และไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) กำหนดให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีปริมาณกำมะถันต่ำและใช้เทคโนโลยีลดมลพิษในกระบวนการเผาไหม้ เพื่อลดผลกระทบต่อคุณภาพอากาศทั้งในทะเลและบริเวณชายฝั่ง
สรุป
การกำจัดของเสียจากเรือเดินสมุทรต้องกำจัดอย่างถูกวิธีและต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอนุสัญญา MARPOL เป็นกฎระเบียบของ IMO ที่ควบคุมมลพิษทางทะเลจากการขนส่งทางเรือ แบ่งเป็น 6 ภาคผนวก ได้แก่ การป้องกันมลพิษจากน้ำมัน, สารเคมี, ขยะ, น้ำเสีย, และมลพิษทางอากาศ ซึ่งช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมทะเลและทำให้การขนส่งทางเรือปลอดภัยและยั่งยืน
บริษัทกำจัดของเสียจากเรือมีที่ไหนบ้าง?
บริษัท เอส เอส ซี ออยล์ จำกัด พร้อมเป็นที่ปรึกษาในการรับกำจัดของเสียที่มาจากเรือเดินสมุทร โดยกระบวนการ การรีไซเคิลของเสียจากเรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและมีมาตรการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินกรณีเกิดเหตุหกรั่วไหลขณะขนส่ง อีกทั้งมีบริการจัดเก็บของเสียจากท่าเรือซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียนขออนุญาตกรมเจ้าท่าในการจัดเก็บของเสีย
ติดต่อ บริษัท เอส เอส ซี ออยล์ จำกัด
ที่อยู่ 52 ม.16 ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี 20140
Phone: 02-026-6547
Fax: 038-198-652
Email : sale@thailandwastemanagement.com